ระทึกหนักกลางเมืองร้อยเอ็ด ไฟไหม้โกดังเก็บของเล่นขนาดใหญ่ ระดมรถดับเพลิง 11 คัน เข้าควบคุมเพลิง ใช้เวลา 9 ชม. ยังควบคุมเพลิงไม่ได้ เหตุมีพลาสติกเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี คาดเสียหายกว่า 70 ล้าน
จากกรณีเพลิงไหม้โกดังเก็บของเล่นเด็ก ริมถนนเทวาภิบาล เยื้องสี่แยกไฟแดงบ้านท่านคร เขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จึงรุดออกตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด และรถดับเพลิง มทบ.27 รวม 11 คัน กู้ภัยอโสก กู้ภัยนครสาเกต โดยอาคารที่เพลิงไหม้เป็นตึกปูน 2 ชั้น ยาวประมาณ 300 เมตร กว้างประมาณ 10 เมตร ตรวจสอบพบต้นเพลิงอยู่บริเวณด้านท้ายของโกดัง พบเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่จึงใช้น้ำฉีดสกัดเพื่อควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ตรวจสอบพบผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควันไฟยืนยันแล้ว 1 ราย มีอาการหายใจไม่สะดวก กู้ภัยนครสาเกตเร่งปฐมพยาบาลนำส่ง รพ.ร้อยเอ็ด
ขณะที่นักดับเพลิงสวมใส่ชุดกันไฟ พร้อมถังอัดอากาศ (ชุด SCBA) เข้าตัวอาคาร เนื่องจากต้นเพลิงอยู่ลึก ไม่สามารถใช้น้ำฉีดเข้าไปได้ ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงก็ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ เนื่องจากต้นเพลิงเป็นที่เก็บของจำนวนมาก และมีกลุ่มควันลอยภายในอาคาร เสี่ยงต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นจึงได้ทำการประชุมวางแผนเพื่อจะเข้าถึงต้นเพลิง และระบายกลุ่มควันออกจากตัวอาคาร เนื่องจากเกิดไฟไหม้เป็นเวลานาน อาคารเริ่มมีรอยแตกร้าว จึงได้ใช้รถแบ็กโฮไปเจาะผนังของอาคารที่เป็นจุดต้นเพลิง ก่อนจะใช้นักดับเพลิงเข้าไปฉีดน้ำเพื่อควบคุมต้นเพลิง แต่ไม่สามารถดับไฟได้ เนื่องจากต้นเพลิงมีเปลวเพลิงขนาดใหญ่ ไหม้ของเล่นที่ทำจากพลาสติกที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (11 พ.ย. 65) เจ้าหน้าที่ดับเพลิง เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.27 กู้ภัยอโสก และกู้ภัยนครสาเกต กู้ภัยฮุก 31 ยโสธร ทีมตอบโต้ภัยพิบัติร้อยเอ็ด อยู่ระหว่างระดมสรรพกำลังรถดับเพลิง เครื่องอัดอากาศ หุ่นยนต์ดับเพลิง ปภ.เขต 6 ขอนแก่น เพื่อเข้าสนับสนุนในที่เกิดเหตุ เพื่อจะวางแผนเพื่อจะใช้อุปกรณ์ในการเข้าถึงต้นเพลิงเพื่อดับไฟหลังจากเปลวเพลิงได้ลุกลามไปยังส่วนชั้น 2 ของส่วนสำนักงาน (อาคารแบ่งออกเป็น 2 ส่วน เป็นอาคาร 2 ชั้นแบบปิด) มีทางเข้า-ออกเพียงด้านหน้า จนท.พบอุปสรรคในการทำงาน คือ ยังไม่สามารถเข้าไปถึงต้นเพลิงได้ เนื่องจากมีกลุ่มเปลวเพลิงและควันไฟอัดแน่นอยู่เป็นจำนวนมาก จึงทำได้คือการฉีดน้ำจากด้านข้างของอาคาร หลังจากนี้เจ้าหน้าที่อาจจะนำหุ่นยนต์ดับเพลิง เข้ามาจากทางด้านหน้าอาคาร โดยจะให้เจ้าหน้าที่บังคับสวมชุดกันไฟ พร้อมชุดถังอากาศ สวมหน้ากากเพื่อช่วยในการหายใจ เพื่อจะบังคับหุ่นยนต์ดับเพลิงเข้าไประงับเพลิงที่ต้นเพลิงภายในตัวอาคารชั้น 1 ด้านหลัง
สอบถาม นายวิทธวัช จันทร์ทอง ผู้จัดการทั่วไปโกดังเก็บของเล่น กล่าวว่า ในช่วงเวลาประมาณ 08.00 น. ของวันนี้ ในขณะที่ตนกำลังมาเปิดหน้าโกดัง ซึ่งด้านหน้าอาคาร เปิดเป็นบริษัทส่งขายของเล่น ได้เห็นกลุ่มควันไฟลอยออกมาจากด้านหลังของโกดัง จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง พอเจ้าหน้าที่มาถึงก็เข้าไปยังจุดเกิดเหตุพบหลอดไฟนีออนตกลงมาที่พื้น 1 หลอด ซึ่งตนไม่ทราบว่าอาจจะเกิดจากสาเหตุนี้หรือไม่ หลังจากนั้นกลุ่มควันได้เพิ่มจำนวนมากขึ้น จนต้องให้พนักงานออกมาจากตัวอาคาร ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าไปประเมินสถานการณ์แล้วว่ากลุ่มควันหนาแน่น ไม่สามารถเข้าไปถึงต้นเพลิง จึงได้ติดตั้งเครื่องดูดอากาศเพื่อดูควันออกมา แต่ก็ยังไม่สามารถระบายควันออกได้
จนต้องใช้รถแบ็กโฮทุบผนังของโกดังช่วงด้านหลังออก 4 ช่อง เพื่อระบายควันไฟออกมา ก่อนจะใช้รถดับเพลิงระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิง แต่เนื่องจากภายในวัสดุที่เก็บจะเป็นของเล่นเด็กที่ติดใส่แผงกระดาษส่งขายให้ผู้ค้ารายย่อย ซึ่งส่วนมากจะเป็นพลาสติกและลูกโป่ง ซึ่งเพิ่งสั่งสินค้าเข้ามาเพื่อประกอบขายในช่วงเทศกาลปีใหม่ คาดว่ามูลค่าความเสียหายประมาณ 70 ล้านบาท แต่ยังเคราะห์ดีที่พนักงานยังไม่เข้าไปทำงานในโกดัง ไม่เช่นนั้นอาจจะมีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้
ขณะที่ นายศุภกฤษ พันธะไชย เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด กล่าวว่า ในช่วงเช้าวันนี้เวลา 08.15 น. รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บของเล่นเด็ก จึงระดมรถดับเพลิง 7 คัน และพนักงานดับเพลิงกว่า 30 นาย ออกตรวจสอบพบเพลิงลุกไหม้จากด้านหลังของโกดัง จึงระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดให้เพลิงอยู่ในวงจำกัด แต่ยังไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงได้ จึงทำให้เพลิงลุกไหม้ขยายวงกว้าง ซึ่งจะได้วางแผนเพื่อใช้สรรพกำลังที่มีเข้าไปดับไฟเป็นลำดับต่อไป ซึ่งระหว่างปฏิบัติการมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสำลักควันไฟ อาการล่าสุดดีขึ้นแล้ว
ส่วนสรรพกำลังในตอนนี้ใช้รถดับเพลิงกว่า 20 คัน เจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย และได้รับการสนับสนุนหุ่นยนต์ดับเพลิงจาก ปภ.ขอนแก่น เข้าดับไฟในจุดที่เข้าถึงยาก ซึ่งแสงเพลิงช่วงนี้เริ่มปะทุกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากวัสดุภายในอาคารเป็นพลาสติกซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ยากต่อการใช้น้ำดับ ส่วนควันพิษที่ลอยออกมาหากสูดดมเป็นเวลานานอาจจะก่อให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ หรืออาจถึงขั้นหมดสติได้ จึงต้องหมุนเวียนเจ้าหน้าที่เข้าทำงานกัน รวมเวลากว่า 9 ชั่วโมงแล้ว หลังจากนี้อาจจะต้องมีการประชุมวางแผนเพื่อดับเพลิงเป็นลำดับต่อไป.
{Fullwidth}