กรณีตำรวจ สภ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ แจ้งข้อหา นายเพิ่มเกียรติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ปลัดอำเภอเชียงดาว พร้อมด้วย นายอาเบ แซ่ลี่ กำนันตำบลเมืองนะ อ.เชียงดาว, นายอมรเทพ ปุกคํา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.เมืองนะ และ นายวาเซ คล่องดารณี ชาวบ้านในตำบลเมืองนะ หลังพบหลักฐานว่าทั้งหมดร่วมกัน ดำเนินการสวมบัตรประชาชนให้กับนางสาวอริสภรา ศุภสิริบัณฑิตย์ หรือ นางสาวหย่ง สัญชาติจีน โดยคดีนี้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหากับปลัดอำเภอเชียงดาวในข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
ส่วนอีก 4 คนแจ้งข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสาร หรือกรอกข้อความลงใน เอกสาร กระทําตามหน้าที่ รับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทําการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใด ได้กระทำต่อ หน้าตนอันเป็นเท็จด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทําให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, ปลอมเอกสารสิทธิหรือเอกสารราชการ, แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทําตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จฯ, ร่วมกับบุคคลที่มิได้มีสัญชาติไทย ยื่นคําขอมีบัตรด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จหรือ ปกปิดความจริงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
นอกจากนี้ยังดําเนินคดีกับ น.ส.อริสรา ศุภสิริบัณฑิตย์ หรือ น.ส.หย่ง เพิ่มเติมในความผิดฐาน เป็นคนซึ่งไม่มีสัญชาติ ไทย ทํา ใช้ หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือกระทําการเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นมีชื่อ หรือมีรายการอย่างหนึ่ง อย่างใดในทะเบียนบ้านหรือเอกสารการทะเบียนราษฎร์อื่นโดยมิชอบ, แจ้งข้อความหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการขอมีบัตรประจําตัวประชาชน, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทําให้ ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทําการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสาร มหาชนหรือเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สําหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทําการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการซึ่งมีวัตถุประสงค์สําหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่ น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, และเป็นคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ทําหรือใช้ หรือแสดงหลักฐานอัน เป็นเท็จ หรือกระทําการเพื่อให้ตนเองมีชื่อ หรือมีรายการอย่างหนึ่งอย่างใดในทะเบียนบ้านหรือเอกสารทะเบียนราษฎรอื่นโดยมิชอบ
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (15 ธ.ค. 65) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงคดีนี้ว่า นอกจากปลัดอำเภอและเครือข่ายที่ถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดีไปแล้ว เชื่อว่ายังมีคนเกี่ยวข้องมากกว่านี้ โดยในจำนวนเงินที่มีการตกลงในการสวมบัตรประชาชนจำนวน 7 แสนบาท ได้มีการโอนให้ปลัดอำเภอผ่านบัญชีธนาคารของผู้ใหญ่บ้าน 250,000 บาท ยังเหลืออีกประมาณ 450,000 บาท ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าไปถึงไหนและถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่ระดับสูงกว่าปลัดอำเภอหรือไม่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้า หากพบใครมาเกี่ยวข้องในการกระทำผิดจะดำเนินคดีทั้งหมด
รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ในส่วนของปลัดอำเภอเชียงดาวจากการตรวจสอบยังพบว่า ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบกรณีเป็นกรณีเดียว ยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตในเรื่องอื่น ซึ่งในการสอบสวนต้องยึดจากพยานหลักฐานและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นอกจากนี้ทางตำรวจ สภ.เชียงดาว ยังได้ขอศาลจังหวัดเชียงใหม่อนุมัติหมายจับนายวาเซ คล่องดารณี พ่อของหญิงเจ้าของบัตรประชาชน (ตัวจริง) ที่หลบหนี หลังเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้สรุปความคืบหน้าในการกวาดล้างจับกุมแก๊งชาวจีนที่เข้ามาใช้พื้นที่ประเทศไทยในการไลฟ์สดการมีเพศสัมพันธ์ผ่านแอปพลิเคชันจีนชื่อ ตาต้าไลฟ์ โดยจนถึงขณะนี้มีการตรวจค้นจับกุมไปแล้วในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และชลบุรี จับกุมได้ทั้งหมด 48 คน และดำเนินคดีกับนักแสดงไปแล้วทั้งหมด 70 คน โดยในจำนวนนี้มีบางส่วนเป็นเด็กที่ได้เข้าสู่ระบบดูแลแล้ว
รอง ผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า สำหรับขบวนการไลฟ์สดการมีเพศสัมพันธ์ที่จับกุมได้ที่ชลบุรี พบว่ามี น.ส.เสว ลี่ เหว่ย หรือ มะปราง อายุ 33 ปี สัญชาติจีน เป็นบอสใหญ่โดยก่อนหน้านี้ได้ใช้วีซ่าท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย ก่อนจะแปลงเป็นวีซ่าอาสาสมัครผ่านมูลนิธิ โดยทำธุรกิจนี้อยู่ในประเทศไทยประมาณ 1 ปี ก่อนเดินทางกลับประเทศจีน โดยมีการสั่งการให้ชาวไทยและชาวจีนที่อยู่ในประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการ แบ่งหน้าที่กันทำเป็นสัดส่วนทั้งจัดหานักแสดง ล่ามแปลภาษาจีน จัดหาสถานที่ ดูแลการถ่ายทอดสดและดูแลค่าใช้จ่าย ขณะนี้ ได้ออกหมายจับ น.ส.เสว ลี่ เหว่ย พร้อมกับพวกอีก 5 คน รวมทั้งนักแสดงอีก 19 คน ทั้งนี้ ขบวนการจีนสีเทาที่เข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมาย ทางตำรวจจะเดินหน้าปราบปราม รวมทั้งการช่วยเหลือดูแลเด็กที่เป็นผู้เสียหาย โดยพบว่ามีบางรายพบว่าติดเชื้อเอชไอวีด้วย.
{Fullwidth}