ตำรวจขอนแก่นจับมือทีมสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำสาว 17 ให้การทั้งน้ำตายืนยัน “สมรักษ์” อดีตนายทหารเรือและฮีโร่นักชกเหรียญทองโอลิมปิก พาเข้าโรงแรมกระทำอนาจาร เผย ไม่กล้าขัดขืนเพราะเป็นนักมวย จ่อออกหมายเรียก 14 ธ.ค.นี้ แจ้ง 4 ข้อหาหนัก พรากผู้เยาว์ พาไปอนาจารทำอนาจาร และพยายามข่มขืน “นักชกโม้อมตะ” เก็บตัวเงียบ ลั่นไม่กังวลพร้อมรับทราบข้อกล่าวหา “กัน จอมพลัง” พาครอบครัวสาว 17 ร้อง “บิ๊กโจ๊ก” เดินหน้าเอาผิดนักมวย ขณะที่แม่เหยื่อขอโทษดูแลลูก ไม่ดีพอ ยันไม่เคยจัดฉากแบล็กเมล์ จะดำเนินการถึงที่สุด
จากกรณี น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี แจ้งความดำเนินคดีกับ น.ต.สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตทหารเรือและนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก เจ้าของฉายา “โม้อมตะ” ในข้อหากระทำอนาจาร หลังไปเที่ยวที่ผับแห่งหนึ่งในตัวเมืองขอนแก่น ขณะที่ น.ต.สมรักษ์เปิดใจไม่ได้ข่มขืน เจอกันในผับก่อนพาเข้าโรงแรม แต่ไม่ได้ล่วงเกิน รู้ภายหลังเป็นเด็กจึงหยุด พร้อมเดินสายทำบุญและรอหมายเรียกเพื่อให้ปากคำ ขณะที่ตำรวจยืนยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 ธ.ค. พ.ต.อ.ยศวัฒน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยความคืบหน้าคดีว่า แพทย์ลงความเห็น น.ส.เอ ผู้เสียหาย สามารถให้ปากคำกับทีมสหวิชาชีพได้แล้ว ทีมสหวิชาชีพและพนักงานสอบสวนร่วมสอบสวน น.ส.เอเรียบร้อยแล้วที่สำนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น ใช้เวลาสอบสวนนานกว่า 4 ชั่วโมง ส่วนรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ จากนี้จะเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนเพื่อดูคำให้การของ น.ส.เอ เพื่อพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ทำความผิด
พ.ต.อ.ยศวัฒน์กล่าวต่อว่า เมื่อได้ข้อกล่าวหาจะออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหา เบื้องต้นพบเข้าข่ายความผิด 3 ข้อหา คือ 1.พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร 2.พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด และ 3.กระทำอนาจาร ทั้งนี้ ทุกขั้นตอนตำรวจดำเนินการด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย คาดว่าน่าจะออกหมายเรียกได้วันที่ 14 ธ.ค.นี้แหล่งข่าวรายงานว่า ช่วงการสอบปากคำ น.ส.เออยู่ในอาการเครียดและร้องไห้บางช่วงในภาพรวม น.ส.เอให้การว่า ถูก น.ต.สมรักษ์กระทำอนาจารบนห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่งจริง ส่วนประเด็นว่าเหตุใด น.ส.เอไม่มีท่าทีขัดขืนตั้งแต่ช่วงออกจากสถานบันเทิง น.ส.เอให้การว่า ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นและที่ไม่ขัดขืนเพราะเห็นว่า น.ต.สมรักษ์เป็นนักมวยไม่กล้าขัดขืน
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านสวน น.ต.สมรักษ์ คำสิงห์ ผู้ถูกกล่าวหา อยู่ในพื้นที่บ้านห้วยเตย หมู่ 9 ต.ท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น พบว่าเป็นบ้านสวนบรรยากาศเงียบสงบมีป้าย “ซุ้มไก่ ส.คำสิงห์” ติดไว้บริเวณทางเข้า มีเพียงคนเฝ้าบ้านสวนแต่ไม่พบ น.ต.สมรักษ์ ต่อมาผู้สื่อข่าวโทร.หาเพื่อสอบถามกรณีตำรวจสอบปากคำผู้เสียหายและเตรียมแจ้งความผิด 3 ข้อหา น.ต.สมรักษ์รับสายกล่าวด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีว่า ขณะนี้ยังพักอยู่ใน จ.ขอนแก่น ไม่เครียดและไม่กังวลอะไร รอหมายเรียกตนและทนายความพร้อมเดินทางไปพบตำรวจ ทุกอย่างว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมาย จากนั้นตัดสายไป
ที่สโมสรตำรวจ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พาแม่และพ่อเลี้ยงของเด็กสาวอายุ 17 ปี เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หลังอ้างว่าถูก น.ต.สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยชื่อดัง พาเข้าโรงแรมแล้วกระทำอนาจารภายหลังรู้จักกันในผับแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น
นายกัณฐัศว์กล่าวว่า มาในฐานะคนกลางมาหาความจริง เพราะยังมีหลายประเด็นที่สังคมสงสัย ประสาน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ดูคดีเกี่ยวกับเด็กและเมื่อมีกรณีกล่าวหาว่าเป็นความจริงหรือไม่ ทำเป็นขบวนการหรือไม่ วันนี้ต้องการให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ให้รอง ผบ.ตร.ช่วยหาความจริงใครผิดว่าไปตามผิด เชื่อว่าถ้าเรื่องถึงมือรอง ผบ.ตร.
ไม่มีใครสามารถวิ่งคดีได้ และหากใครผิดให้ดำเนินคดีทุกข้อกล่าวหา อย่างกรณีเรื่องสถานบันเทิงบอกมีการปลอม พ.ศ.เกิด หากร้านมีข้อมูลให้เอาข้อมูลมาเพื่อดำเนินคดีกับน้องอายุ 17 ปี ถ้าไม่ได้ปลอมก็เป็นอีกเรื่อง ส่วนกรณีนักมวยที่สงสัยว่าจะถูกวางยาหรือไม่ ตนพร้อมให้ความช่วยเหลือเพื่อให้เกิดความกระจ่างกับทุกฝ่าย
ด้านแม่ของเด็กหญิงอายุ 17 ปี กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พร้อมระบุว่า ขอโทษที่ดูแลลูกตัวเองไม่ดีพอ ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ เด็กไม่ควรเข้าสถานบันเทิง ต่อไปจะแก้ไข ขณะนี้ยังไม่ได้คุยกับลูกสาวเพราะเข้าข่ายซึมเศร้า อยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้ลูก และยืนยันว่าครอบครัวไม่ได้ต้องการรับเงิน ไม่ได้คิดแบล็กเมล์ ครอบครัวไม่ได้รับความหวาดระแวงแต่มีการติดต่อมาแค่รอบเดียว หลังจากนี้จะไม่มีการเจรจา จะดำเนินการถึงที่สุด
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า กำชับและวางแนวทางการสอบสวนและสั่งการ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ไปแล้ววันก่อนได้สอบปากคำเบื้องต้นน้องผู้เสียหาย น้องอยู่ในอาการตกใจและกลัว อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงคือสองคนอยู่ในห้องเดียวกันถือว่ามีความผิดชัดเจน ผู้เสียหายยืนยันว่ามีการล่วงล้ำยังไม่ถึงขั้นร่วมเพศ ส่วนจะสมัครใจไปเองหรือไม่กฎหมายมีทั้งพาไปกับพรากไป ต้องมาดูว่าเป็นความผิดแบบไหนแต่ถือว่าเป็นความผิดทั้งสิ้นและยืนยันว่าจะทำความจริงให้ปรากฏ
สำหรับคดีความพบว่านักมวยมีความผิดฐานพาไปเพื่อการอนาจาร และรอการสอบปากคำว่าเข้าข่ายฐานข่มขืนหรือไม่ ถ้ารวบรวมพยานหลักฐานได้แล้วจะขอหมายจับ ถ้าศาลให้ออกหมายจับจะจับกุมตามหมาย แต่ถ้าออกหมายเรียกจะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป ส่วนที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานหมดแล้ว อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบโดยเฉพาะสารคัดหลั่ง การสอบปากคำพยานสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องสถานบันเทิงดำเนินคดีสั่งปิดเป็นอำนาจ ผวจ.ขอนแก่น และฝากเน้นย้ำเรื่องการตรวจตราไม่ให้เด็กเข้าไปในสถานบริการ เพราะมีโทษถึงปิดสถานบริการ หากปล่อยปละละเลยจะเสนอปิดสถานบริการทันที ส่วนกรณีที่น้องโชว์บัตรประชาชนยืนยันว่าเป็นบัตรจริง การ์ดเห็นอยู่แล้วว่าน้องอายุไม่ถึง 18 ปี และข้อเท็จจริงไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงบัตร
ต่อมา มีหญิงสาวอายุ 19 ปี 3 คน ปรากฏในคลิปหน้าสถานบันเทิงกับนักมวยชื่อดัง เข้ามาร้องเรียนและขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หลังจากถูกชาวเน็ตนำรูปไปแอบอ้างว่าเป็นเด็กอายุ 17 ปี ทำให้โดนด่าเสียหายใช้ชีวิตในสังคมลำบาก เตรียมดำเนินการเอาผิด ผู้เกี่ยวข้อง
หนึ่งในสาวอายุ 19 ปี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีคลิปหลุดกลุ่มของพวกตนถ่ายกับนักมวยดัง และมีการแชร์ลงในโซเชียลไปก่อนหน้านี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นจริงแต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับน้องอายุ 17 ปี คลิปดังกล่าวถูกถ่ายตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา ในร้านเหล้าแห่งหนึ่ง จ.ขอนแก่น แต่เป็นคนละแห่งกับที่น้องอายุ 17 ปีไปเจอนักมวย วันนั้นกลุ่มตนเจอกับนักมวยและขอถ่ายรูปอวยพรวันเกิดเท่านั้น ยืนยันไม่ได้รู้จักส่วนตัวหรือมีความสัมพันธ์กันเรื่องอื่น หลังจากถ่ายคลิปเสร็จคนในกลุ่มของนักมวยชวนไปดื่มต่อด้วยกัน แต่พวกตนปฏิเสธมองว่าเขาชวนเป็นมารยาท จากนั้นแยกย้ายกันกลับบ้าน เพราะนักมวยดังมีแฟนคลับมาต่อคิวถ่ายรูปจำนวนมาก พวกตนรู้สึกเสียใจมากถูกโยงกับเรื่องนี้ทำให้เสียหาย ยังถูกประจานกล่าวโทษว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี ตอนนี้ใช้ชีวิตลำบากถูกตราหน้าทั้งๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง จะดำเนินการเอาผิดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
เมื่อเวลา 20.30 น. พ.ต.อ.ยศวัฒน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนประชุมพิจารณาเพิ่มข้อหา น.ต.สมรักษ์ คำสิงห์ ผู้ถูกกล่าวหา อีก 1 ข้อหา คือพยายามข่มขืนผู้อื่นใช้กำลังประทุษร้ายตาม รวมทั้งหมดเป็น 4 ข้อหา นอกจากนี้ตำรวจจะออกหมายเรียกชายทำหน้าที่ขี่รถ จยย.ร่วมกระทำผิดด้วยอีก 1 คน มารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันพรากผู้เยาว์ และข้อหาร่วมกันพาบุคคลอื่นไปทำอนาจาร